เป็นโครงการศึกษาพฤติกรรมการตอบสนองของงูเขียวหางไหม้ต่อสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงจากการกระทำของมนุษย์ งูเขียวหางไหม้เป็นงูมีพิษที่กัดคนบ่อยที่สุดในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว แต่ผู้คนมีความรู้เกี่ยวกับงูที่มีความหลากหลายและน่าสนใจชนิดนี้อย่างจำกัด
งูที่อาศัยอยู่ตามกิ่งไม้ชนิดนี้เป็นงูที่พบได้มากที่สุดในบริเวณสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช งูเขียวหางไหม้เป็นสายพัน์ที่ยังมีการถกเถียงกันในเรื่องของการจัดประเภททางวิทยาศาสตร์ กลุ่มหนึ่งกล่าวว่ามันถูกจัดอยู่ในตระกูลเดียวคือ Trimeresurus อีกด้านกล่าวว่าถูกแบ่งออกไปได้เป็นหลายตระกูล เช่น Cryptelytrops, Viridovipera, Popea ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วงูตระกูลนี้จะมีความค้ายคลึงกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดตัวที่โตเต็มวัย ความแข็งแรงของร่างกาย และสีสัน มีสามชนิดที่พบบ่อยในสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช นั่นก็คือ งูเขียวหางไหม้ตาโต (Trimeresurus (Cryptelytrops) macrops),งูเขียวหางไหม้ (Trimeresurus (Cryptelytrops) albolabris), และงูเขียวไผ่หางเขียว (Trimeresurus (Viridovipera) vogeli).
งูเขียวหางไหม้ตาโตเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในบริเวณป่าดิบแล้งของสะแกราช(พบถึงมากกว่า 160 ตัวในระยะเวลา 2ปี) อย่างไรก็ตาม อีกสองชนิดที่เหลือนั้นถือว่าค่อนข้างพบได้ยากกว่าชนิดแรก(งูเขียวหางไหม้ 8 ตัว และงูเขียวไผ่หางเขียว 3 ตัวในช่วงเวลาเดียวกัน)
เป้าหมายของโครงการคือ การศึกษาพฤติกรรมการตอบสนองของงูเขียวหางไหม้ต่อสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงจากการกระทำของมนุษย์ งูเขียวหางไหม้เป็นงูมีพิษที่กัดคนบ่อยที่สุดในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว แต่ผู้คนมีความรู้เกี่ยวกับงูที่มีความหลากหลายและน่าสนใจชนิดนี้อย่างจำกัด ผลขั้นต้นที่ได้คือ vertical stratification, and spatial partitioning แต่ด้วยตัวอย่างที่จำกัดทำให้เราสร้างการรบกวน นอกจากนี้งูชนิดนี้ยังเคลื่อนไหวน้อยซึ่งหมายความว่ามันเหมาะสมกับการสำรวจที่เน้นไปที่การศึกษาพฤติกรรมมากกว่า การตั้งกล้อง Time Lapse ที่มีโหมดอินฟราเรดเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะทำให้เราเข้าใจพฤติกรรม 1 วันในช่วงชีวิตหนึ่งของงูเขียวหางไหม้
การศึกษาพฤติกรรมงูเขียวหางไหม้, spatial ecology, และแหล่งที่อยู่อาศัย โดยใช้การติดวิทยุติดตามรวมถึงการสำรวจทั้งในบริเวณสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชและบริเวณใกล้เคียงทำให้สามารถลดปัญหาและสร้างความเข้าใจระหว่างคนกับงูและยังเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตชนิดนี้อีกด้วย
งูที่อาศัยอยู่ตามกิ่งไม้ชนิดนี้เป็นงูที่พบได้มากที่สุดในบริเวณสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช งูเขียวหางไหม้เป็นสายพัน์ที่ยังมีการถกเถียงกันในเรื่องของการจัดประเภททางวิทยาศาสตร์ กลุ่มหนึ่งกล่าวว่ามันถูกจัดอยู่ในตระกูลเดียวคือ Trimeresurus อีกด้านกล่าวว่าถูกแบ่งออกไปได้เป็นหลายตระกูล เช่น Cryptelytrops, Viridovipera, Popea ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วงูตระกูลนี้จะมีความค้ายคลึงกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดตัวที่โตเต็มวัย ความแข็งแรงของร่างกาย และสีสัน มีสามชนิดที่พบบ่อยในสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช นั่นก็คือ งูเขียวหางไหม้ตาโต (Trimeresurus (Cryptelytrops) macrops),งูเขียวหางไหม้ (Trimeresurus (Cryptelytrops) albolabris), และงูเขียวไผ่หางเขียว (Trimeresurus (Viridovipera) vogeli).
งูเขียวหางไหม้ตาโตเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในบริเวณป่าดิบแล้งของสะแกราช(พบถึงมากกว่า 160 ตัวในระยะเวลา 2ปี) อย่างไรก็ตาม อีกสองชนิดที่เหลือนั้นถือว่าค่อนข้างพบได้ยากกว่าชนิดแรก(งูเขียวหางไหม้ 8 ตัว และงูเขียวไผ่หางเขียว 3 ตัวในช่วงเวลาเดียวกัน)
เป้าหมายของโครงการคือ การศึกษาพฤติกรรมการตอบสนองของงูเขียวหางไหม้ต่อสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงจากการกระทำของมนุษย์ งูเขียวหางไหม้เป็นงูมีพิษที่กัดคนบ่อยที่สุดในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว แต่ผู้คนมีความรู้เกี่ยวกับงูที่มีความหลากหลายและน่าสนใจชนิดนี้อย่างจำกัด ผลขั้นต้นที่ได้คือ vertical stratification, and spatial partitioning แต่ด้วยตัวอย่างที่จำกัดทำให้เราสร้างการรบกวน นอกจากนี้งูชนิดนี้ยังเคลื่อนไหวน้อยซึ่งหมายความว่ามันเหมาะสมกับการสำรวจที่เน้นไปที่การศึกษาพฤติกรรมมากกว่า การตั้งกล้อง Time Lapse ที่มีโหมดอินฟราเรดเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะทำให้เราเข้าใจพฤติกรรม 1 วันในช่วงชีวิตหนึ่งของงูเขียวหางไหม้
การศึกษาพฤติกรรมงูเขียวหางไหม้, spatial ecology, และแหล่งที่อยู่อาศัย โดยใช้การติดวิทยุติดตามรวมถึงการสำรวจทั้งในบริเวณสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชและบริเวณใกล้เคียงทำให้สามารถลดปัญหาและสร้างความเข้าใจระหว่างคนกับงูและยังเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตชนิดนี้อีกด้วย