การใช้ค่ายวิทยาศาสตร์เป็นตัวกลางในการส่งต่อความรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆที่เด็กๆได้ทำซึ่งมีความแตกต่างอย่างมากกับการเรียนในห้องเรียน นักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในค่ายจะไม่ถูกบอกให้ทำตามที่สั่งแต่จะเป็นการผลักดันให้ได้ลองปฏิบัติเอง ซึ่งผลที่ได้คือกระบวนการคิดที่พัฒนาจากการลงมือปฏิบัติโดยตรง เป้าหมายของค่ายวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคือการเปลี่ยนทัศนคติของเยาวชนไทยรวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับมุมมองใหม่ๆของสิ่งรอบตัวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ค่ายนี้ถูกจองยาวไปจนถึงปี 2559 และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญและได้รับความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน
ในฐานะที่คณะวิจัยงูสะแกราชเพื่อการศึกษาและการอนุรักษ์เป็นส่วนหนึ่งของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช เรามีความพยายามที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับงานวิจัยและการอนุรักษ์งูให้กับนักเรียนที่มาเข้าค่ายนอกเหนือจากคนในพื้นที่ ใช้คำถามที่กระตุ้นความคิด ทำให้ดู บอกเล่าประสบการณ์ที่ทำเพื่อให้นักเรียนมีความสนใจ ไม่ใช่แค่การบรรยาย เรายังใช่สื่อเพื่อนำเสนอข้อมูลที่ถูกปิดบังเกี่ยวกับความสำคัญของงูต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งทำให้เกิดผลตอบรับที่น่าสนใจคือนักเรียนกล้าคิด กล้าถาม และได้รับประสบการณ์โดยตรงว่างูไม่ใช่สัตว์ที่น่ากลัวและอันตรายอย่างที่คิด แต่ควรเคารพในการอยู่ร่วมกัน
เราได้บอกเล่าเกี่ยวกับความหลากหลายของสายพันธุ์งูขึ้นอยู่กับแหล่งที่อยู่อาศัยที่มันอยู่ เช่นป่าเต็งรังและป่าดิบแล้ง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของพฤติกรรมการป้องกันตัวของงู เช่น เลื้อยหนี, แกล้งตาย, และมาตรการสุดท้ายคือฉก รวมไปถึงการป้องกันตัวของคนเพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากงู เช่น อย่าพยายามจับ ฆ่า หรือดักงู มีการนำเสนอวิธีการนำงูออกจากกับดักที่เราทำไว้โดยที่ไม่ใช้มือไปสัมผัสที่ตัวงูโดยตรง (Hands Off Methods) เมื่อต้องเผชิญหน้าหรือรับมือกับงูที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีพิษความปลอดภัยเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เรายังได้นำวีดีโอที่อาสาสมัครคนหนึ่งเข้าไปใกล้กับงูจงอางมากเกินไป แต่งูจงอางกลับค่อยๆเลื้อยหนีไปทางอื่นโดยไม่ทำอันตรายใดๆกับอาสาสมัคร สิ่งที่สำคัญที่สุดที่นักเรียนทุกคนควรเข้าใจตรงกันคืองูไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำอันตรายกับคนหากเราไม่ได้ไปทำอะไรมันก่อน เพราะงูกลัวคนมาก
การทดลองอีกอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่างูไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำอันตรายต่อคนคือการนำงูเขียวหางไหม้ (Trimeresurus macrops) มาไว้ด้านหน้าของห้องเรียน(บนขาตั้งของProjector) แล้วสังเกตว่าครูและนักเรียนจะเห็นงูหรือไม่ โดยผลที่ออกมาคือแทบไม่มีใครเห็นงูเลย และนี่เป็นบทเรียนที่แสดงให้เห็นว่างูอยู่รอบตัวเราและงูไม่เคยพยายามที่จะทำร้ายเรา ทั้งๆที่เราเดินผ่านตรงนั้นตลอดการบรรยาย งูอีกตัวหนึ่งที่ใช้เป็นงูเพื่อการศึกษาคืองูแซ่หางม้า(Boiga siamensis) เราได้นำงูตัวนี้ให้นักเรียนทั้งห้องดูเพื่อให้เห็นว่างูไม่ได้มีความพยายามที่จะทำอันตราย รวมไปถึงมีนักเรียนบางคนได้ลองจับเพื่อที่จะได้รู้วิธีการถืองูที่ถูกต้องโดยที่ไม่ทำให้งูตกใจหรือบาดเจ็บ
นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาถาม-ตอบตอนท้ายคาบเพื่อความเข้าใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคำถามเกี่ยวกับทีม งู และงานวิจัย นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบถามคำถามทำให้เราต้องกระตุ้นเพื่อให้นักเรียนเกิดความสงสัยและเกิดการเรียนรู้มากขึ
ในฐานะที่คณะวิจัยงูสะแกราชเพื่อการศึกษาและการอนุรักษ์เป็นส่วนหนึ่งของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช เรามีความพยายามที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับงานวิจัยและการอนุรักษ์งูให้กับนักเรียนที่มาเข้าค่ายนอกเหนือจากคนในพื้นที่ ใช้คำถามที่กระตุ้นความคิด ทำให้ดู บอกเล่าประสบการณ์ที่ทำเพื่อให้นักเรียนมีความสนใจ ไม่ใช่แค่การบรรยาย เรายังใช่สื่อเพื่อนำเสนอข้อมูลที่ถูกปิดบังเกี่ยวกับความสำคัญของงูต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งทำให้เกิดผลตอบรับที่น่าสนใจคือนักเรียนกล้าคิด กล้าถาม และได้รับประสบการณ์โดยตรงว่างูไม่ใช่สัตว์ที่น่ากลัวและอันตรายอย่างที่คิด แต่ควรเคารพในการอยู่ร่วมกัน
เราได้บอกเล่าเกี่ยวกับความหลากหลายของสายพันธุ์งูขึ้นอยู่กับแหล่งที่อยู่อาศัยที่มันอยู่ เช่นป่าเต็งรังและป่าดิบแล้ง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของพฤติกรรมการป้องกันตัวของงู เช่น เลื้อยหนี, แกล้งตาย, และมาตรการสุดท้ายคือฉก รวมไปถึงการป้องกันตัวของคนเพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากงู เช่น อย่าพยายามจับ ฆ่า หรือดักงู มีการนำเสนอวิธีการนำงูออกจากกับดักที่เราทำไว้โดยที่ไม่ใช้มือไปสัมผัสที่ตัวงูโดยตรง (Hands Off Methods) เมื่อต้องเผชิญหน้าหรือรับมือกับงูที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีพิษความปลอดภัยเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เรายังได้นำวีดีโอที่อาสาสมัครคนหนึ่งเข้าไปใกล้กับงูจงอางมากเกินไป แต่งูจงอางกลับค่อยๆเลื้อยหนีไปทางอื่นโดยไม่ทำอันตรายใดๆกับอาสาสมัคร สิ่งที่สำคัญที่สุดที่นักเรียนทุกคนควรเข้าใจตรงกันคืองูไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำอันตรายกับคนหากเราไม่ได้ไปทำอะไรมันก่อน เพราะงูกลัวคนมาก
การทดลองอีกอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่างูไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำอันตรายต่อคนคือการนำงูเขียวหางไหม้ (Trimeresurus macrops) มาไว้ด้านหน้าของห้องเรียน(บนขาตั้งของProjector) แล้วสังเกตว่าครูและนักเรียนจะเห็นงูหรือไม่ โดยผลที่ออกมาคือแทบไม่มีใครเห็นงูเลย และนี่เป็นบทเรียนที่แสดงให้เห็นว่างูอยู่รอบตัวเราและงูไม่เคยพยายามที่จะทำร้ายเรา ทั้งๆที่เราเดินผ่านตรงนั้นตลอดการบรรยาย งูอีกตัวหนึ่งที่ใช้เป็นงูเพื่อการศึกษาคืองูแซ่หางม้า(Boiga siamensis) เราได้นำงูตัวนี้ให้นักเรียนทั้งห้องดูเพื่อให้เห็นว่างูไม่ได้มีความพยายามที่จะทำอันตราย รวมไปถึงมีนักเรียนบางคนได้ลองจับเพื่อที่จะได้รู้วิธีการถืองูที่ถูกต้องโดยที่ไม่ทำให้งูตกใจหรือบาดเจ็บ
นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาถาม-ตอบตอนท้ายคาบเพื่อความเข้าใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคำถามเกี่ยวกับทีม งู และงานวิจัย นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบถามคำถามทำให้เราต้องกระตุ้นเพื่อให้นักเรียนเกิดความสงสัยและเกิดการเรียนรู้มากขึ